สมศักดิ์ จันทร์วิไล (ศักดิ์นรินทร์ดาวร้าย) ศักดิ์นรินทร์ดาวร้าย ลิเกชื่อดังจากจังหวัดพิษณุโลกโดดเด่นในบทบาทตัวร้ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะการด้นกลอนสดและลีลาการออกแขกที่ไม่เหมือนใคร เมื่อไปเล่นปิดวิกที่ไหนจะเรียกว่า “วิกแตก” ดังสมคำร่ำลือ

เส้นทางสู่ความโด่งดัง
ศักดิ์นรินทร์เป็นลิเกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยบุคลิก “ร้ายแต่มีเสน่ห์” น้ำเสียงทรงพลัง และลีลาการแสดงที่ดึงดูดผู้ชม ไม่ว่าจะเป็น “เจื้อยแจ้ว แว่ววิงวอนหวาน จูงลูกจูงหลานมากันเป็นแถว เอ้า ศักดิ์นรินทร์เล่นแล้ว…เอ้ยยยยย เอ้าศักดิ์นรินทร์เล่นแล้ว เสียงใสเหมือนแก้ว แว่วฟังกันก่อน ได้ฟังอย่างปากหวอ เหวยยยย เมื่อใช้ลูกคอปลิ้นปล้อนผู้ฟังจงนั่งลงก่อน (ซ้ำ) ไม่หลอกไม่หลอน ก็ต้องศักดิ์นรินทร์ เฮลังวังเก อยากดูลิเกล้อมวงเข้ามา…” หรือว่า “ศักรินทร์ดาวร้ายมาแล้ว..เฮ้อ ๆ ๆ เฮ้อ ๆ ๆ” เป็นบทที่ศักดิ์นรินทร์ใช้เวลาออกแขก กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ติดหู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้คณะลิเกของเขาได้รับความนิยมอย่างมาก ในยุคที่ลิเกรุ่งเรือง ศักดิ์นรินทร์เดินสายแสดงไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้งที่มีงานแสดงต่อเนื่อง เจ้าภาพถึงกับต้อง ปูเสื่อรอจ้างงานหน้าบ้าน ล่วงหน้าหลายวัน นอกจากการแสดงสดที่ตลาดนัดและวัดวาอารามต่างๆ ลิเกของศักดิ์นรินทร์ยังโด่งดังผ่านทาง สถานีวิทยุ ซึ่งทำให้ผู้คนทั่วประเทศสามารถรับฟังได้ ไม่ว่าจะทำไร่ไถนาอยู่ที่ไหนก็ตาม
มรดกทางศิลปะและการสืบทอด
น้าโย่ง เชิญยิ้ม ตลกชื่อดังเคยเป็น คู่หูตัวโจ๊ก ของศักดิ์นรินทร์ และร่วมสร้างเสียงหัวเราะไปพร้อมกับคณะ ขณะที่ แม่น้องรัก ทลัชยา ทายาทสายตรงของศักดิ์นรินทร์ ดาวร้าย ยังคงสานต่อมรดกทางลิเกของบิดา โดยปัจจุบันมีการฝึกลูกสาวให้แสดงลิเกตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เพื่อให้ศิลปะการแสดงแขนงนี้คงอยู่ต่อไป แม้กาลเวลาจะผ่านไปกว่า 40 ปี แต่ชื่อของ ศักดิ์นรินทร์ ดาวร้าย ยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนลิเก และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์



บรรณานุกรม
พิษณุโลกฮอตนิวส์.(2561).น้องรัก ศักดิ์นรินทร์ ลิเกอยู่ในสายเลือดสานต่อบทร้ายตามพ่อ “ศักดิ์นรินทร์ ดาวร้าย”.สืบค้นเมื่อ 3 มีนาคม 2568.จาก https://www.phitsanulokhotnews.com/2018/04/21/117912
เรียบเรียงข้อมูลโดย นางสาววิวรรธนี สังข์ทอง เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ชำนาญการ